เมื่อเวลา 21.00 น วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณโรงเรียนอนุบาลบวรพรรณ 2 ซอยกรุงเทพ-นนท์ 7 แยก 4 หลังจากในโลกออนไลน์ มีการโพสต์ภาพ หุ่นจราจร “จ่าเฉย” 3 ตัว ในลักษณะน่ากลัว พร้อมข้อความว่า “เลี้ยวกลับแทบไม่ทัน”
ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบเป็นสามแยกมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์วิ่งผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก บริเวณกลางแยกพบจ่าเฉยยืนอยู่ 3 นาย แต่งชุดเครื่องแบบตำรวจจราจรแบบเต็มยศ สภาพเก่าพกอาวุธปืนที่เอว พกกุญแจมือ และนกหวีด โดยจ่าเฉยนายแรก หน้าตาหล่อเหลามีการชำรุดที่บริเวณลำคอ มีผ้าเทปสีดำพันรอบ คาดว่าน่าจะคอหักชาวบ้านนำมาต่อโดยการพันผ้าเทป ส่วนจ่าเฉยนายที่ 2 หน้าตายิ้มแย้ม ที่บริเวณแขนขวาขาด ส่วนนายที่ 3 บริเวณศีรษะ มีร่องรอยผุกร่อน โดยจ่าเฉยทั้ง 3 นายยืนอยู่ข้างกำแพงบ้านบริเวณใต้ต้นไม้ซึ่งเป็นที่มืดมีไฟสลัวทำให้คนที่ผ่านไปมารู้สึกหวาดกลัวบางรายถึงกับเลี้ยวรถหนี
จากการสอบถามนายนิพนธ์ ดีเคารพคุณ อายุ 60 ปี อาชีพรับจ้าง กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่แถวนี้ประมาณตั้งแต่ปี 2544 จ่าเฉยตั้งอยู่ตรงนี้มานานเป็น 10 ปีแล้วตั้งแต่ก่อนนายกประยุทธ์จะมา ส่วนตัวเฉยๆไม่ได้กลัวอะไร เหตุผลที่ตั้งน่าจะเพราะตรงนี้เป็นทางสามแพร่งต้องตั้งไว้เป็นจุดสังเกตุ คนขี่รถมา หรือแก๊งมอเตอร์ไซค์ซิ่งมาจะได้กลัว แต่เดี๋ยวนี้น่าจะชินกันแล้ว ไม่น่ากลัวเลย แม้แต่ลูกของตนก็ไม่ได้กลัว
ทางด้านนายนายวีระพงษ์ กีรติปัญญากุล อายุ 45 ปี อาชีพ พนง.รัฐวิสาหกิจ กล่าวว่าตนอยู่แถวนี้มาปีกว่าๆ น่าจะตั้งมาตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้สังเกตว่ามีรอยชำรุดที่คอ ตอนกลางคืนขี่มาแถวนี้ช่วงมืดๆ ถ้าคนขี่รถมาก็อาจจะตกใจได้ ส่วนตนเฉยๆเพราะชินแล้ว คนมาแถวนี้ประจำก็ชิน ส่วนตัวมองว่า น่าทำให้สวยๆ กว่านี้
